หลังเกมที่เสมอกับ ไบร์ทตัน แบบเกือบแพ้ 1-1 ต้องยอมรับว่าแฟนหงส์ทั่วโลกต่างต้องพุ่งเป้า หรือ ภาษายุคนี้เรียกว่า ทัวร์ลง ไปที่ VAR กับการตัดสินในเกมที่ไม่เป็นธรรมเลยสำหรับพวกเค้าในเกมนี้ โอเคว่าตอนนั้นหลังเกมมันก็พอจะหัวร้อนแล้วทัวร์ลงไปตรงนั้น แต่เราเชื่อว่าตอนนี้หัวน่าจะเย็นลงแล้วเตรียมเป็นกองแช่งในคืนนี้ เราต้องหันกลับมาดูด้วยว่าพวกเค้าเองก็มีจุดต้องแก้ไขก่อนไหม

คุณภาพนักเตะทีมสำรอง

จากสถานการณ์ตัวเจ็บเกือบหมดทีมตัวจริง ต้องยอมรับว่าแม้จะไม่อยากยอมรับ แต่พวกเค้าก็ต้องเข็นนักเตะที่พอจะฟิตลงสนามได้ ซึ่งนั่นทำให้พวกเค้าต้องพึ่งพานักเตะสำรองและนักเตะดาวรุ่งที่ดันขึ้นมา ทีนี้คำว่านักเตะสำรองก็รู้อยู่แล้วว่าคุณภาพมันสู้นักเตะตัวจริงไม่ได้ น่าจะมาถึงการแก้ไขว่าทำอย่างไรให้นักเตะสำรองเหล่านั้นแสดงศักยภาพให้ได้สูงขึ้นจนใกล้เคียงตัวจริงมากกว่า หรือ ทางแก้อาจจะต้องหาซื้อนักเตะตัวสำรองทางเลือกใหม่เอามาใช้ด้วย เพื่อให้สู้กับครึ่งหลังของซีซั่นได้

ตัวเจ็บมาอีกแล้ว(เหรอ)

นอกจากลุ้นผลการแข่งขัน ชาวเดอะค็อปเองต้องมาลุ้นว่า นักเตะตัวเองจะบาดเจ็บจากเกมนี้อีกหรือไม่ สรุปว่าดวงแตกเจ็บเพิ่มไปอีกสำหรับ เจมส์ มิลเนอร์ ตัวเก๋าของทีม ทีนี้มันอาจจะต้องมาดูว่าที่เจ็บแทบทุกเกมมันเกิดจากอะไร ถ้าเกิดจากอุบัติเหตุในการเล่นเหมือนเคส ฟานไดค์ ก็เข้าใจได้ แต่ว่าเล่นๆแล้วเจ็บจะมาอ้างเตะถี่ก็คงจะไม่ได้ เพราะว่าทีมใหญ่ทีมอื่นมันก็เตะถี่เหมือนกัน ทำไมเค้าไม่เจ็บแทบทุกเกมจนตัวจริงแทบไม่เหลือแบบนี้อาจจะต้องไปทบทวนวิธีการฟื้นฟูนักเตะ และฟิตเนสของทีมด้วย

การปรับระบบให้เข้ากับสถานการณ์

ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่มีระบบการเข้าทำ ระบบเกมดีมาก แต่ว่ามันก็กลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้พอนักเตะที่ไม่ได้เล่นมานานจะจูนเข้ากับระบบไม่ได้เลย ทีนี้อาจจะต้องกลับมาแก้ที่ตัวเองว่าอาจจะต้องปรับระบบใหม่ให้เข้ากับสถานการณ์ตอนนี้ เพื่อให้นักเตะที่มีอยู่ทำตามได้ อาจจะเป็นเรื่องยากที่เห็นลิเวอร์พูลในแบบที่ไม่คุ้นเคยแต่หากมันเซฟได้ก็ควรทำ