ไม่น่าเชื่อว่า หลังเสียงนกหวีดที่สนามลอนดอนสเตเดี้ยมดังขึ้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ ทั้งที่ครึ่งแรกเค้าโดนนไปก่อน 1-0 ไม่เท่านั้น ชัยชนะเหนือเวสต์แฮม 3-1 ในเกมนี้ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้สร้างสถิติใหม่ด้วยการเป็นทีมเยือนที่เอาชนะได้มากถึง 10 เกมติดต่อกันด้วย มีเกมไหนน่าสนใจของแฟนบอลบ้าง

ดราม่าที่ เซนต์ แมรี่

ในเกมเยือนทั้งหมด คงไม่มีเกมไหนดราม่าที่สุดเท่ากับเกมที่เอาชนะ เซาท์แธมป์ตัน ได้ถึงถิ่นเซนต์แมรี่ อีกแล้ว เกมนี้หลังจบครึ่งแรกแมนยูโดนนำไป 2-0 ไม่น่าเชื่อว่าครึ่งหลังการลงสนามของ เอดินสัน คาวานี่ จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป สามารถพลิกนรกกลับมาเอาชนะได้ 3-2 ในนาทีสุดท้ายแบบแฟนบอลร้องกันดังลั่นบ้านทีเดียว

ชนะปารีส

เกมแรกของศึก UCL แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีงานหนักรออยู่นั่นก็คือ การบุกเยือนปารีส แหล่งรวมซุปตาร์ลูกหนังโลกในเวลานี้ รวมถึงเจอคนคุ้นเคยอย่าง อังเดร เอร์เรร่า อีกด้วย อย่างไรก็ตามเกมนี้ด้วยแท็คติคใหม่ที่เน้นรับให้แข็งแล้วรอสวนของ โซลชาร์ ได้สร้างเซอร์ไพร์ส พาทีมเก็บชัยชนะเหนือปารีสได้ เกมนี้เนย์มาร์ และ เอ็มปัปเป้ แทบจะไม่ได้เห็นหน้าเลย

ชนะหนุ่มโรงงาน

เกมเจอกับเอฟเวอร์ตัน ไม่ใช่งานง่ายอยู่แล้วยิ่งมาเจอในเวลานี้บอกเลยว่า เหนื่อยเลย เพราะว่าเอฟเวอร์ตันยกระดับตัวเองขึ้นมาเยอะมากภายใต้การคุมทีมของ อันเชลอตติ บวกกับมีคู่มือการใช้งาน ฮาเมส โรดริเกรวส โชคดีอย่างหนึ่งที่ ริชาร์ลิซอน ไม่ได้ลง นั่นทำให้ความน่ากลัวลดลงไปเยอะ แต่เกมนี้ก็ไม่ง่ายเลยสุดท้ายเอาชนะไปได้ จากความยอดเยี่ยมของ บรูโน่ แฟร์นันเดส กับ สองประตู

จากสถิติชนะทีมเยือนแบบนี้ น่าสนใจว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะรักษาจุดแข็งของตัวเองไปได้อีกนานแค่ไหน หากพวกเค้าสามารถชนะติดต่อกันนอกบ้านไปเรื่อยๆแบบนี้อีกสัก 2-3 เกม มีสิทธิ์ทำลายสถิติสูงสุดได้เลย แฟนบอลต้องมาลุ้นกัน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีซั่นที่พวกเค้าพุ่งชนความสำเร็จ ได้ตามเป้าหมายแบบที่ทีมอื่นได้แต่ชะเง้อคอรอดูเท่านั้นเอง การได้แชมป์พรีเมียร์ลีค และ แชมป์คาราบาวคัพ กลายเป็นมาตรฐานธรรมดาไปเสียแล้ว (ทั้งที่หากเป็นทีมอื่นต้องมองว่านี่คือความสำเร็จระดับยอดเยี่ยมด้วยซ้ำไป) เรากลับไปย้อนดันบ้าง เหตุการณ์ครั้งสำคัญประจำซีซั่นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกิดอะไรขึ้นกับพวกเค้าบ้าง

นำเข้า กองหลัง

ทุกซัมเมอร์ ตำแหน่งที่ เป๊ป จะบอกบอร์ดบริหารให้หาใหม่เสมอก็คือ กองหลังตัวกลางหรือเซนเตอร์แบ็ค เนื่องจากสเปคของเป๊ป ดูจะหายากมาก ทั้งความแข็งแกร่งแบบฟุตบอลอังกฤษที่ต้องสามารถทนแรงปะทะได้ต่อเนื่องทั้งบนพื้น และกลางอากาศ การมีความรวดเร็วปราดเปรียว วิ่งขึ้นลงได้ สามารถโอเวอร์แล็ปขึ้นไปโหม่งได้ และที่สำคัญต้องมีเทคนิคที่ดีเหมือนกับนักฟุตบอลสเปนที่สามารถเล่นบอลด้วยเท้า ออกบอลเนียนคมกริบ ซีซั่นนี้เป๊ปนำเข้ามาสองคน หนึ่งคือ นาธาน อาเก้ คนนี้ถือว่าประสบการณ์ดีเล่นเท้าซ้ายที่สื่อคาดการณ์กันว่านำเข้ามาแทนที่ เอเมอริค ลาปอร์ต และอีกคน รูเบน ดิอาส ที่หลายคนมองข้ามไป แต่ปรากฏว่าเป็นรูเบน ดิอาส ที่ฉายแววความแข็งแกร่ง และทำได้ทุกอย่างตามสเปคที่เป๊ปว่ามา นั่นทำให้เจ้าตัวสถาปนาตัวเองกลายเป็นกองหลังที่แข็งแกร่งที่สุดไปแล้ว ยิ่งจับคู่กับ จอห์น สโตนด้วย ยิ่งแข็งแกร่งเข้าปอีก กลายเป็นคนที่คิดว่าจะได้ลงอย่าง ลาปอร์ต กับ อาเก้ นั่งดูไปซะอย่างนั้น

ไม่มีกองหน้า ไม่มีปัญหา

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่น่าเชื่อว่า จุดแข็งของพวกเค้าในซีซั่นก่อนอย่างเรื่องเกมรุก มาซีซั่นนี้กลับกลายเป็นจุดอ่อนซะอย่างนั้น เฆซุส และ กุน ต่างผลัดกันเจ็บและฟอร์มตก นั่นทำให้เป๊ป ไม่มีทางเลือกต้องปรับสไตล์ทีมของตัวเอง มาเป็นระบบไร้กองหน้า ส่งกองหน้ากึ่งปีกลงสลับทำหน้าที่แทน ซึ่งระบบไร้กองหน้าที่หลายทีมมีปัญหา กลับกลายไม่เป็นปัญหาของซิตี้ที่กุนโดกัน, แบร์นาโด ซิลวา , ฟิล โฟเด้น และ ราฮีม สเตอร์ริ่ง ต่าง ผลัดกันขึ้นมายิงเป็นว่าเล่น กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้เราเห็นความสุดยอดของเป๊ป อีกครั้ง

อำลา กุน อเกวโร่

งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา เรารู้กันดี และสุดท้าย กุน อเกวโร่ ดาวยิงที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของทีมมาตลอด สิบปี ก็ต้องถึงเวลาลาจากทีมไปตามวัฏจักร แน่นอนว่าเกมสุดท้ายที่เค้าต้องลาทีมไป แฟนบอลซิตี้ คงน้ำตาซึมกันเลยทีเดียว เพราะนี้คือดาวยิงที่ดีที่สุดตลอดกาลของซิตี้แบบไม่ต้องสงสัยเลย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ในหน้าประวัติศาสตร์ซิตี้ด้วยเหมือนกัน

หลังเกมที่เสมอกับ ไบร์ทตัน แบบเกือบแพ้ 1-1 ต้องยอมรับว่าแฟนหงส์ทั่วโลกต่างต้องพุ่งเป้า หรือ ภาษายุคนี้เรียกว่า ทัวร์ลง ไปที่ VAR กับการตัดสินในเกมที่ไม่เป็นธรรมเลยสำหรับพวกเค้าในเกมนี้ โอเคว่าตอนนั้นหลังเกมมันก็พอจะหัวร้อนแล้วทัวร์ลงไปตรงนั้น แต่เราเชื่อว่าตอนนี้หัวน่าจะเย็นลงแล้วเตรียมเป็นกองแช่งในคืนนี้ เราต้องหันกลับมาดูด้วยว่าพวกเค้าเองก็มีจุดต้องแก้ไขก่อนไหม

คุณภาพนักเตะทีมสำรอง

จากสถานการณ์ตัวเจ็บเกือบหมดทีมตัวจริง ต้องยอมรับว่าแม้จะไม่อยากยอมรับ แต่พวกเค้าก็ต้องเข็นนักเตะที่พอจะฟิตลงสนามได้ ซึ่งนั่นทำให้พวกเค้าต้องพึ่งพานักเตะสำรองและนักเตะดาวรุ่งที่ดันขึ้นมา ทีนี้คำว่านักเตะสำรองก็รู้อยู่แล้วว่าคุณภาพมันสู้นักเตะตัวจริงไม่ได้ น่าจะมาถึงการแก้ไขว่าทำอย่างไรให้นักเตะสำรองเหล่านั้นแสดงศักยภาพให้ได้สูงขึ้นจนใกล้เคียงตัวจริงมากกว่า หรือ ทางแก้อาจจะต้องหาซื้อนักเตะตัวสำรองทางเลือกใหม่เอามาใช้ด้วย เพื่อให้สู้กับครึ่งหลังของซีซั่นได้

ตัวเจ็บมาอีกแล้ว(เหรอ)

นอกจากลุ้นผลการแข่งขัน ชาวเดอะค็อปเองต้องมาลุ้นว่า นักเตะตัวเองจะบาดเจ็บจากเกมนี้อีกหรือไม่ สรุปว่าดวงแตกเจ็บเพิ่มไปอีกสำหรับ เจมส์ มิลเนอร์ ตัวเก๋าของทีม ทีนี้มันอาจจะต้องมาดูว่าที่เจ็บแทบทุกเกมมันเกิดจากอะไร ถ้าเกิดจากอุบัติเหตุในการเล่นเหมือนเคส ฟานไดค์ ก็เข้าใจได้ แต่ว่าเล่นๆแล้วเจ็บจะมาอ้างเตะถี่ก็คงจะไม่ได้ เพราะว่าทีมใหญ่ทีมอื่นมันก็เตะถี่เหมือนกัน ทำไมเค้าไม่เจ็บแทบทุกเกมจนตัวจริงแทบไม่เหลือแบบนี้อาจจะต้องไปทบทวนวิธีการฟื้นฟูนักเตะ และฟิตเนสของทีมด้วย

การปรับระบบให้เข้ากับสถานการณ์

ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่มีระบบการเข้าทำ ระบบเกมดีมาก แต่ว่ามันก็กลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้พอนักเตะที่ไม่ได้เล่นมานานจะจูนเข้ากับระบบไม่ได้เลย ทีนี้อาจจะต้องกลับมาแก้ที่ตัวเองว่าอาจจะต้องปรับระบบใหม่ให้เข้ากับสถานการณ์ตอนนี้ เพื่อให้นักเตะที่มีอยู่ทำตามได้ อาจจะเป็นเรื่องยากที่เห็นลิเวอร์พูลในแบบที่ไม่คุ้นเคยแต่หากมันเซฟได้ก็ควรทำ

โดยปกติการเปลี่ยนม้ากลางศึก เปลี่ยนกุนซือกลางซีซั่น เราอาจจะไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก เพียงแค่การแก้ปัญหาช่วยให้ทีมกลับมาอยู่ในจุดที่ควรจะเป็นได้ เท่านี้ก็ดีแล้ว แต่เคสของเชลซีแตกต่างออกไป พวกเค้าพร้อมเปลี่ยนกุนซือแล้วพาทีมไปถึงแชมป์ได้เลย อย่าง ซีซั่นที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วการนำเข้าโทมัส ทูเคิ่ล ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญพาเชลซีไปถึงแชมป์ UCL ได้ แม้จะเป็นเจ้ายุโรป แต่พวกเค้าก็ยังมีการบ้านที่ต้องทำ

กองหน้า ใครดี

ไม่น่าเชื่อว่า เชลซี ขนาดเพิ่งจะซื้อ ติโม แวร์เนอร์ จากแอร์เบ ไลป์ซิกไป พวกเค้ากลับต้องการกองหน้าอีกแล้ว คราวนี้เป็นเรื่องของกองหน้าที่จะเข้ามากดดันให้ติโม แวร์เนอร์ กลับสู่ฟอร์มเดิมที่ควรจะเป็น ไม่เท่านั้น ยังต้องเป็นกองหน้าที่ลงมาเป็นที่พึ่งของเพื่อนร่วมทีมได้ในกรณีที่ แวร์เนอร์ ลงสนามไม่ได้ด้วย ตอนนี้ที่เป็นข่าวว่าอยากได้มากก็คือ ฮาแลนด์ ของดอร์ทมุนด์ เคสนี้เสี่ยหมีเจ้าของทีมอยากได้มาก จนพร้อมสั่งเขียนเช็คตัวเลขเอาเลย เราเชื่อว่าข่าวนี้จริงและเจรจากันไปแล้วส่วนหนึ่ง ติดอยู่ที่ค่าตัวระดับ 150 ล้านปอนด์ มันมากเกินไปเท่านั้นเอง

ตัวแทนกองเต้

ความสำเร็จของเชลซี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เอ็นโกโล่ กองเต้ คือปัจจัยความสำเร็จในแดนกลาง แต่ว่าด้วยอายุอานามสภาพร่างกาย ตอนนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ เชลซี จะเริ่มมองหาตัวแทนได้แล้ว เรามองว่า ตัวแทนที่เหมาะสมสุดชั่วโมงนี้ ดีแคลน ไรซ์เท่านั้น เหมือนทาง เชลซี จะอยากได้ด้วยเหมือนกัน เอามาแทนไว้ก่อน เคสนี้เหมือนจะยังเป็นข่าวลือเท่านั้น อะไรก็ยังไม่แน่นอนเท่าไร

เคลียร์นักเตะ สร้างที่ว่าง

ตอนนี้มีข่าวว่า ทางทูเคิ่ล กุนซือของทีมกำลังให้นักเตะที่ไม่ได้รับโอกาส กลับมาทดสอบกับทีมและประเมินเพื่อให้โอกาสกันอีกครั้ง เราเชื่อว่าตอนนี้ ทูเคิ่ล คงกำลังจะหาทางเคลียร์ที่ว่างในทีม ก่อนจะซื้อนักเตะตามที่ตัวเองต้องการมาเสริมทัพ ต้องดูว่านักเตะที่แทบจะถูกลืมไปอย่าง แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ จะได้มีโอกาสลงเล่นในสีเสื้อเชลซีอีกไหม หรือ ถูกปล่อยไปเลย

หลังจากผ่านเกมเอฟเอคัพมาได้แบบหืดจับ ตอนนี้ทีมจากพรีเมียร์ลีค หลายทีมตบเท้าเข้ารอบมาเจอกันเองหลายคู่ทีเดียว นั่นทำให้แฟนบอลอย่างเราคงต้องเตรียมตัวนอนดึกกันอีกแล้ว ว่าแต่รอบ 8 ทีม มีใครมาเจอกับใครกันบ้างไปดูกัน

เอฟเวอร์ตัน กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ต้องบอกว่านี้เป็นคู่รอง สำหรับรอบนี้เลย เอฟเวอร์ตัน ที่โชว์ฟอร์มดีมาก ในการเอาชนะสเปอร์สมาได้แบบสุดมัน ระดับห้าดาวเลย คราวนี้พวกเค้ายังเจอเกมหนักอย่างต่อเนื่อง เป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้เลย ส่วนเรือใบเองพวกเค้าผ่านทีมไม่ยากมากเท่าไร มาเจอรอบนี้ดูจะพอตึงมือพอสมควร เป๊ป จะได้เจอกับ อันเช อีกรอบหนึ่ง

เลสเตอร์ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ฝั่งเพื่อนร่วมเมืองแมนเชสเตอร์ อย่าง ยูไนเต็ด เองพวกเค้าเอาชนะเกมแดงเดือดมาได้ คิดว่าน่าจะเป็นงานเบาแต่เปล่าเลยเป็นงานหนักเหมือนกัน แถมเป็นคู่เอกของรายการในรอบนี้ด้วย การกับเลสเตอร์ ในเวลานี้เป็นงานยาขมหม้อใหญ่เลย อันดับในลีค เป็นตัวตัดสินได้ดี ต้องดูว่าถึงตอนนั้น เลสเตอร์ หรือ แมนยู ใครจะได้ผ่านเข้ารอบต่อไป

เชลซี กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

อีกหนึ่งคู่ก็มาเจอกันเองของ ทีมจากพรีเมียร์ลีค เชลซี ภายใต้การทำทีมของ ทูเคิ่ล ที่เริ่มดีวันดีคืนมาเรื่อยๆ คราวนี้พวกเค้าได้เจองานเบาอีกแล้ว กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่รอบที่แล้วชนะมาได้แบบหืดๆ มาเจอกันรอบนี้ เชลซี ไม่น่าจะเหนื่อยเท่าไร ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะผ่านเข้ารอบไปรอผู้ชนะจากคู่อื่นได้เลย

บอร์นมัธ กับ เซาท์แธมป์ตัน

บอร์นมัธ เป็นทีมสุดท้ายที่ไม่ใช่ทีมจากพรีเมียร์ลีคที่ยังหลงเหลืออยู่ การได้เจอกับเซาท์แธมป์ตัน หากเป็นสักเดือนที่แล้วคงไม่น่าจะรอด แต่ฟอร์มตอนนี้ เซาท์แธมป์ตัน ก็ไม่ได้อยู่ในจุดเดิมที่แข็งแกร่งแล้ว นักเตะเจ็บเยอะ ถ้ายังหายไม่ทันสภาพทีมก็ไม่สมบูรณ์ นั่นทำให้ บอร์นมัธ เองก็มีลุ้นพอจะล้มยักษ์จากพรีเมียร์ลีคได้ ใครจะชนะต้องลุ้นกันไป

ถือว่าเป็นช่องโหว่ใหญ่ทีเดียวจากการขาดหายไปของ หลุยส์ ซัวเรส จากอาการบาดเจ็บดังกล่าวคาดว่าจะยาวจนถึงปิดฤดูกาลทีเดียว 4-5 เดือนเป็นอย่างน้อย หากไม่อยากจะมือเปล่าในซีซั่นนี้ทำให้ทางบาร์ซาต้องรีบลงตลาดเพื่อหานักเตะมาชดเชยช่องโหว่ดังกล่าว มีใครอยู่ลิสต์บ้างเรามาวิเคราะห์กันตามหน้าสื่อ

ติโม แวร์เนอร์
คนแรกจากเวทีบุนเดสลีก้า ที่ต้องบอกเลยว่าคนนี้เป็นดาวยิงที่ร้อนแรงสุดคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ติโม แวร์เนอร์ ของแอร์เบ ไลป์ซิก ความรวดเร็วในการเข้าทำ การเอาชนะ 1-1 ได้ของเค้าถือว่าเป็นตัวอย่างกองหน้าที่หลายทีมอยากได้เค้ามา ลองนึกภาพว่าเค้ายืนค้ำหน้ารอลูกจ่ายของเมสซี่ กองหลังก็หนาวแล้ว สำหรับโอกาสเราให้ไว้ที่ 30% เท่านั้น ดูท่าเจ้าตัวอยากพาต้นสังกัดคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าก่อน

เอเมอริค โอบาเมยอง
คนนี้ก็ถือว่าเป็นคีย์แมนหลักของอาร์เซนอลเหมือนกัน โอบาเมยอง ตอนนี้ต้องบอกว่าเป็นเดอะแบกของทีมเลยก็ว่าได้ หากต้องการศูนย์หน้าที่พร้อมจะยิงประตูก็ต้องเค้าเลย ตัวนี้เราให้โอกาส 70% ขึ้นไปเลย เนื่องจากเจ้าตัวอยากย้ายทีมเพื่อมองหาความสำเร็จมาประดับตู้โชว์แล้ว อาร์เซนอลตอนนี้บอกเลยว่าให้กับเค้าไม่ได้ บวกกับอายุ 30 ปีแล้วเหลือเวลาในสนามอีกไม่มากหากต้องการจะเป็นแชมป์ต้องย้ายตอนนี้เท่านั้น

โรดรีโก้
คนนี้ใครที่ไม่ได้ดูบอลลาลีก้า อาจจะงงว่าใครหว่า เนื่องจากเค้าไม่ค่อยมีข่าวเท่าไรผลงานก็ไม่เด่นมากนักในฐานะกองหน้า แต่สไตล์การเล่นของเค้าจะเป็นแบบตัวใหญ่ บังบอลดี เบียดจนกองหลังกระเด็น ลูกกลางอากาศโหม่งดี ถือว่าเป็นศูนย์หน้าที่แตกต่างจากคนอื่นที่บาร์ซามี น่าจะสร้างความแตกต่าง สร้างมิติใหม่ของการเล่นบาร์ซาได้เยอะทีเดียว โอกาสให้ไว้ที่ 50%

ต้องดูว่า สามรายชื่อที่เขียนไว้ บาร์ซาจะคว้าใครมาร่วมทีมได้หรือเปล่า แต่ต้องมีแน่นอนไม่งั้นท้ายฤดูกาลแย่แน่

ตอนที่เราเขียนบทความอยู่นี้ ไม่แน่ว่า เมสซี่ อาจจะใส่เสื้อสโมสรอื่นลงเล่นฟุตบอลไปแล้วก็เป็นได้ ต้องยอมรับว่ากระแสของเค้ามาแรงจริง แต่ดีลของเมสซี่ที่จะลาบาร์เซโลน่านั้นไม่ได้ส่งผลต่อเค้าเพียงคนเดียวเท่านั้น มันยังส่งผลต่อทีมจนกลายเป็นแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ของทีมที่อาจจะทำให้ บาร์ซาเจอวิกฤติครั้งใหญ่ได้เลยมีดีลใครบ้าง
ดีลของ หลุยส์ ซัวเรส
คนแรกที่เอาจริงมีข่าวว่าจะย้ายออกก่อนเมสซี่อีก นั่นก็คือ เพื่อนสนิทของเค้าทั้งในและนอกสนาม หลุยส์ ซัวเรส เค้าเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ เมสซี่ขอลาทีม หลุยส์ ซัวเรส โดนบอร์ดบริหารบอกยกเลิกสัญญา ทำให้ย้ายทีมได้เลย แต่ว่าตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะไปไหน ล่าสุดมีข่าวว่า เจ้าตัวจะย้ายไปหาทีมจอมสอยฟรีอย่าง ยูเวนตุส อันนี้น่าสนใจทีเดียวว่าไปแน่ แต่ถ้าไปผสานกับโรนัลโด้ และ ดีบาล่า ที่รออยู่แล้ว ความน่ากลัว มันจะมากขนาดไหน อีกอย่างอยากรู้ว่า หลุยส์ ซัวเรส เวอร์ชั่นเพื่อนเมสซี่ กับเวอร์ชั่นเพื่อนโรนัลโด้ มันจะแตกต่างกันอย่างไร
ดีลของ อีวาน ราคิติช
สำหรับดีลต่อไป ถือว่ามาแรงเหมือนกัน อีวาน ราคิติช ถือว่าเป็นนักเตะอีกคนที่ถูกยกย่องน้อยเกินไป เค้าเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่เล่นได้ดีตอนอยู่บาร์ซา เป็นเหมือนผู้ปิดทองหลังพระของจริง แถมเล่นเข้ากันได้กับ เมสซี่อีกด้วย แต่ว่าเค้าเองก็โดนบอร์ดบอกให้หาทีมใหม่ได้เลย แล้วเค้าก็ทำได้จริง ด้วยการหวนคืนสู่ทีมเก่าอย่าง เซบีญ่า บอกเลยว่าดีลนี้ บาร์ซา อาจจะยังไม่เห็นผลเท่าไร แต่พอลงสนามเดี๋ยวรู้เลยว่าขาดเค้าไปขาดใจแน่นอน
ดีลของ อาร์ตูโร่ วิดาล
ดีลต่อไปที่ออกสัญญาณชัดเจนว่าไปแน่นอน เพราะบอร์ดก็ไม่เอา นักเตะก็ไม่อยากอยู่ การแยกย้ายดูจะเป็นคำตอบที่ดี อาร์ตูโร่ วิดาล เพิ่งจะออกมาให้สัมภาษณ์แบบระเบิดลงไม่สนใจใครทั้งนั้นเกี่ยวกับการทำงานของบอร์ดบริหาร เรียกว่าสะอึกกันไปทั้งทีมเลยทีเดียว การขาด วิดาลไป จะทำให้ทีมขาด ขาโจ๋ ที่พร้อมจะลุยกับคู่ต่อสู้แบบไม่กลัวใคร พร้อมทำให้อีกฝ่ายแหยงจนเล่นไม่ออกไปเองเหมือนกัน หากขาดคนนี้ไปบอกเลยว่า กองกลางบาร์ซาจะติ๋ม และหงอมาก